AWARDS • MONEY & BANKING AWARDS

รางวัลเกียรติยศ บริษัทยอดเยี่ยมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 2565 เอสซีจี

บทความโดย:

“ขอขอบคุณ วารสารการเงินธนาคาร ที่มอบรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 2565 ให้กับเอสซีจี เราจะยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล รักษาการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่นส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด ตลอดจน การดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”

รางวัลเกียรติยศ

บริษัทยอดเยี่ยม

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 2565

Best Public Company 

Property and Construction Industry 2022


จันทนิดา สาริกะภูติ

ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน

เอสซีจี


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอสซีจีได้มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและบริการ นำมาซึ่งความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ ส่งผลให้ เอสซีจี ได้รับรางวัลบริษัทยอดเยี่ยมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 2565 (Best Public Company - Property and Construction Industry 2022 )

จันทนิดา สาริกะภูติ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เอสซีจี กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลว่า ขอขอบคุณ วารสารการเงินธนาคาร ที่มอบรางวัล บริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2565กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างให้กับเอสซีจี เราจะยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล รักษาการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชั่นส์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด ตลอดจนการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ มาจากการที่เอสซีจีมีการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ ลดขั้นตอนการทำงาน การนำเทคโนโลยีและระบบ Digital มาใช้ในการทำงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท นอกจากนี้ เอสซีจียังคงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา การเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและบริการ (HVA) รวมทั้งการผลักดันด้าน Innovation ทำให้สามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ

“เอสซีจีมุ่งเน้นการดูแลและพัฒนาคนเป็นสำคัญเพราะเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุด เสริมสร้าง “Mindset” ที่ดีในการทำงาน เช่น การทำงานแบบ Agile ผลักดันแนวทางการทำงานแบบ Test & Learn รวมทั้งแนวคิด Fail fast - Learn Fast ยอมรับได้กับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ปรับปรุงให้เร็ว พัฒนาให้ดีกว่าเดิม เพื่อหาแนวทางในการหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว” 


5 ปัจจัยหนุนผลประกอบการโดดเด่น

ในรอบปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของเอสจีซีมีความโดดเด่นมาก เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่

        1. การวางแผนดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบโดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด เช่น การแบ่งทีมทำงานเป็นไข่ขาว-ไข่แดง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถผลิตและส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้ รวมทั้งป้องกันปัญหา Supply Chain Disruption ที่อาจเกิดขึ้น

        2. มุ่งเน้น Business Transformation โดยมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) เพื่อให้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและสร้างความแตกต่างของธุรกิจในอุตสาหกรรม ผ่านการวิจัยและพัฒนาสินค้าและบริการ เช่น การเพิ่มการขาย Services & Solutions รวมทั้งการปรับปรุงระบบเพื่อให้สามารถตอบสนองพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น Active Omni Channel

        3. การพัฒนาสินค้าและบริการ HVA รวมทั้งการผลักดันด้าน Innovation ทำให้สามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ เช่น การผลิตสินค้า Low Carbon Cement

        4. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้ CPAC BIM เพื่อลดความสูญเสียในกระบวนการก่อสร้าง

        5. การมีวินัยทางการเงิน เพื่อคงไว้ซึ่งสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยการบริหารต้นทุนทางการเงิน การเรียงลำดับความสำคัญและเร่งด่วนของโครงการ เพื่อสามารถวางแผนเงินลงทุนได้อย่างเหมาะสม


มุ่งดำเนินงานตามแผนการเติบโตอย่างยั่งยืน

จันทนิดากล่าวว่า ในปี 2565 เราต่างเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสงครามภูมิรัฐศาสตร์ (รัสเซีย-ยูเครน) การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมทั้งมาตรการรับมือสถานการณ์โควิดในประเทศจีน ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน 

นอกจากนี้เอสซีจีมุ่งดำเนินงานตามแผนการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามหลัก ESG4Plus (Net Zero - Go Green - Lean เหลื่อมล้ำ - ย้ำร่วมมือ) มองหาโอกาสในการลงทุนใน New Growth Business โดยที่ผ่านมา มีการตั้ง SCG Cleanergy เพื่อให้บริการโซลูชั่นส์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งแสงอาทิตย์และลม ทั้งในไทยและต่างประเทศ 

ส่วนในธุรกิจหลักเราก็ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ขยาย Portfolio ในสินค้า HVA และพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ออกสู่ตลาด เร่งการขยายธุรกิจ Services & Solutions รวมทั้งขยายร้านค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจน มุ่งดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับด้าน ESG โดยการทำ Decarbonization และผลักดันการใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น

สำหรับธุรกิจเคมิคอลส์ ยังคงดำเนินโครงการลงทุนหลักในเวียดนามให้เป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในครึ่งปีแรกของปี 2566 นอกจากนี้ ยังคงพัฒนาสินค้า HVA และดำเนินโครงการตามหลัก Circular Economy เช่น การพัฒนาสินค้า Green Polymer การขยายธุรกิจพลาสติกรีไซเคิลที่กำลังเติบโตและขยายธุรกิจ Vinyl Chain เพื่อรองรับการเติบโตในภูมิภาค

ด้านธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง ยังคงขยายธุรกิจทั้งแนวกว้างโดยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและแนวลึกคือการลงทุนทั้งต้นน้ำ-ปลายน้ำ ผ่านการ M&P และขยายกำลังการผลิตภายในโรงงานเดิม ตลอดจนผลักดัน Packaging Solutions และบรรจุภัณฑ์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันระยะยาว