FED แก้ปัญหาไม่ตรงอาการ หรือ อาจเป็นเรื่องจงใจ ?
ผมเชื่อว่าทุกท่านเห็นข่าวการลดดอกเบี้ยและการอัดสภาพคล่องเข้าระบบของธนาคารกลางสหรัฐเเล้ว
และเห็นแล้วว่าทุกตลาดตอบรับในเชิงลบด้วยการเทขาย
ทุกสินทรัพย์แล้วถือเงินสดไว้
หรือเรากำลังเข้าสู่ช่วง Sell everything and Run ?!
ขออนุญาตอธิบายปัญหาเป็นลำดับครับ
อันดับแรกคือเรากำลังเจอปัญหาเรื่อง Solvency ไม่ใช่ Liquidity
สำหรับคนทั่วไปเเบบเราๆเเล้ว
ปัญหา"สภาพคล่องในการชำระหนี้"มันมีผลกับปากท้องมากกว่าปัญหาด้าน"เครดิต"การเงิน
นั่นเเปลว่าการที่ FED สาดสภาพคล่องเข้ามา
เป็นเหมือนคนไข้ที่ต้องการท่อช่วยหายใจเเต่หมอเอาเครื่องปั๊มหัวใจมาเเก้อาการ
คนไข้เลยจะสะดุ้งขึ้นมาทีนึงก่อนจะสลบต่อ
เราสามารถเห็น V-Shape Rebound ในราคาสินทรัพย์ได้
เเต่จะไม่เห็น V-Shape ในสภาวะเศรษฐกิจ
เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจาก Covid-19
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเงินสดในมือประชาชนและธุรกิวทั่วไปโดยตรง
ไม่ใช่ปัญหาเรื่องของเครดิตของสถาบันการเงิน
เพราะจากอดีตที่ผ่านมา วิธีการแก้ไขคือการยัดเงินเข้ามือประชาชนให้ไวที่สุด
เพื่อหยุด Herd Mentality หรืออุปทานหมู่
หรือไม่ก็ต้องวัดกับการ Shutdown เมืองเเบบอู่ฮั่นไปเลย
เพราะถ้าคนติดเชื้อไม่เพิ่ม หมอเเละสถานพยาบาลเพียงพอ
เราจะสามารถเข้าสู่เฟส Recovery ได้ไม่ยาก
จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโตเเบบก้าวกระโดดถือเป็น Panic
ลูกที่หนึ่ง
ส่วนผู้เสียชีวิตรายเเรกถือเป็น Panic ระลอกสอง
และการที่คนเริ่มตุนของอย่างที่เราเห็นอยู่จะกลายเป็นการกระจายความกลัวในระลอกที่สาม
เเต่ความน่ากลัวจริงๆของเรื่องนี้อยู่ที่ Capacity
ในการรักษา
สมมติประชากรในนิวยอร์คมี 10 ล้านคน
จำนวนเตียงทุก รพ. รวมกันได้ห้าเเสนเตียง
ใน 500,000 เตียงกำลังถูกใช้งานที่ 80%
ทำให้เหลือห้องว่างรองรับเเค่ 100,000 คน
ถ้าเเค่ 1% ของประชากรใน NY ติดเชื้อเเละลุกลาม
จะทำให้เตียงว่างในรพ.ทั้งหมดหายไปทันที
Real Panic ไม่ได้เกิดจากการเเพร่กระจาย
เเต่มาจากที่การคนติดเเล้วหาที่รักษาไม่ได้
นี่คือสมมติฐานที่เกิดขึ้นและจะเห็นได้ชัดว่าการพิมพ์เงินและการกดดอกเบี้ยจนใกล้ศูนย์ของสหรัฐ
แทบไม่ช่วยเรืองนี้เท่าไหร่ จึงเป็นที่สงสัยว่า “ FEDกำลังเติมน้ำมันให้รถที่ไม่มีล้อรึเปล่า “
แต่กลับมาที่ปัญหาที่ผมเกริ่นไว้ว่าเรากำลังเจอปัญหาเรื่อง Solvency
ไม่ใช่ Liquidity
ถามว่า FED ไม่รู้เหรอ ?
รู้ครับ !! ขนาดคนบ้านๆเเบบผมยังรู้ ทำไมคนระดับนั้นจะไม่รู้ !!
เเต่วันนี้ FED เลือกที่จะเเก้ Liquidity ก่อน
เลือกที่จะ Maintain สภาพคล่องไว้ก่อน
ไม่ใช่ว่ารักษาไม่ถูกวิธี
เเต่เเค่ยังไม่บอกคนไข้
เพราะสิ่งที่น่ากลัวสำหรับสถาบันการเงิน
คือการที่คนเเห่ไป"ถอนเงิน"พร้อมกัน
หลายต่อหลายครั้งที่คุณไปถอนเงินจำนวนมากๆเเล้วต้องรออีก 1-2 วัน
เพราะในสาขานั้นๆเค้าไม่มีเงินสดสำรอง
คือถ้าคนเเห่ไปถอนเงินพร้อมกันจริงๆ
สำนักงานใหญ่ของธนาคารอาจจะยังไม่รู้เลยว่าจะรับมือยังไง
เพราะปกติเเล้วสินทรัพย์ของธนาคารมันคือเงินคนที่ฝากมาเเล้วเอาไปปล่อยกู้ต่อกับพันธบัตรรัฐบาล
สิ่งที่ FED ทำผ่านระบบ
Repurchase Agreement (REPO) ตลอดครึ่งปีที่่ผ่านมา
มันคือการเมคชัวร์ว่าเเบงค์จะมีสภาพคล่องเพียงพอถ้าเกิดคนเเห่มาถอนเงินพร้อมๆกัน
เเละการปริ้นเงินออกมาขนาดนี้
ผมว่ามันคือความต้องการ maintain ระบบการเงินให้"รอด"ให้ได้ เพราะถ้าเกิด Bank run ขึ้นมา จะกดดอกเบี้ยให้ติดลบ มันก็ไม่มีประโยชน์เเล้ว
ซื้อของไม่มีของไม่ว่า
เเต่ถ้าไปกดเงินเเล้วเงินไม่ออก
คุณจะทำยังไงต่อ..