การเดินทางของทองคำในปี 2021
ซึ่งหากเรามาพิจารณาจากในแง่พื้นฐานต้องกลับมาที่สมการ
Real Yield =
Nominal Yield - Inflation
ผลตอบแทนที่แท้จริง
= ผลตอบแทนทั่วไป - เงินเฟ้อ
ราคาทองคำจะได้รับผลบวกอย่างมากในกรณีที่
Real Yield ติดลบเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่จ่ายดอกเบี้ยหรือเงินปันผล
ทำให้ประโยชน์จากการแสวงหากำไรจากทองคำอยู่ที่ส่วนต่างของราคาเท่านั้น
และการที่ Real Yield จะติดลบได้ นั่นหมายถึง Nominal Yield จะต้องอยู่ในระดับต่ำหรือติดลบ บวกกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น หรือพูดในอีแง่คือผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจากภาพนี้เราจะเห็นได้ว่าราคาทองคำวิ่งสวนทางชัดเจนกับผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสิบปี นั่นหมายถึงหากธนาคารกลางสหรัฐมีนโยบายการกดดอกเบี้ยไว้ (Yield Curve Control) จะส่งผลบวกกับราคาทองคำอย่างมาก
แต่หากกลับมามองในมุมของเงินเฟ้อนั้นจะเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่สูงขึ้นทั้งๆที่มีปริมาณเงินในระบบสูงขึ้น ซึ่งหากเงินเฟ้อกลับมา ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่รักษากำลังซื้อเอาไว้ ( Purchasing Power ) จะได้รับผลบวกอย่างมากจากการอ่อนค่าของเงินตรา
และถึงแม้เราจะไม่เห็นเงินเฟ้อในภาคเศรษฐกิจจริงก็ตาม แต่ระดับของเงินที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญก็ดันให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆสูงขึ้นตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือแม้แต่ Digital Asset อย่างบิทคอยน์
ภาพของทองคำในปี 2021 ที่ดูแล้วน่าสนใจกว่าปี 2011 คือระดับของ Money Supply ที่วิ่งขึ้นอย่างรุนแรงล้อไปกับราคาทองคำที่สูงขึ้น ซึ่งต่างกับปี 2011 ที่ราคาทองคำวิ่งขึ้นในอัตราเร่งที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของ Money Stock อย่างมากจนนำมาสู่การร่วงลงแรงของราคาในที่สุด
ในมุมมอง Technical Analysis ถ้าสามารถยืนในแนว Consolidation Level ในระดับ 1880 และไม่หลุดระดับ 1860 ถือว่าเป็นการฟอร์มตัวของราคาที่ Bullish มากสำหรับปีหน้า
ในปี 2021 จึงถือเป็นอีกปีที่ทองคำน่าจะต้องกลับมาอยู่ในแรดาห์ของทุกคนอีกครั้งครับ