THE GURU • INVESTMENT

เมื่อ Front-end curve เริ่มส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

บทความโดย: สงวน จุงสกุล

  • ภาวะตลาดหมีของตลาดพันธบัตรบ้านเรา ที่เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม วิ่งยาวร่วม 2 เดือน เริ่มจะเจอกับแรงต่อต้าน เมื่อบอนด์ 10 ปี ขึ้นมาถึง 50bp มาอยู่ที่ระดับ 2เริ่มดูน่าสนใจสำหรับนักลงทุน แต่ด้วยปัจจัยราคาพลังงานการ reopening ประเทศน้ำเสียงแบงก์ชาติที่ less dovish ต่อเนื่อง และบรรยากาศ risk-on โดยรวม ทำให้โอกาสที่ yield จะวิ่งลงยังดูไม่ง่าย ดีที่สุดคือหา trade range ใหม่ที่เหนียวที่นานและที่นิ่งหน่อย เช่น 1.9-2.1% ก็น่าจะเป็นที่น่าพอใจของหลาย ๆ ฝ่ายแล้ว แม้ราคาน้ำมันจะลงบ้างและยอดผู้ติดเชื้ออาจจะปรับตัวขึ้นสูง แต่ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางเดิมไปได้
  • ความผันผวนของบอนด์ว่ามากแล้ว ยังดูน้อยไปถนัดเมื่อเทียบกับ swap curve ที่ถูกผลักดันด้วย bear flattening ในตลาด DM และ EM บรรยากาศของการขึ้นดอกเบี้ยมีในหลายประเทศ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีใคร dovish อีกแล้ว front-end curve ขึ้นทั่วโลก ลุกลามมาถึงบ้านเรา swap curve font-end ขึ้นเร็วน่ากลัวจนสูญเสียความเป็น safe haven
  • สำหรับ front-end เราอาจกล่าวได้ว่า bond curve เป็นตัวแทนของ demand/supply สภาพคล่อง และมุมมองของผู้เล่นในประเทศมากกว่า ขณะที่ swap curve เป็นตัวแทนมุมมองของผู้เล่นต่างประเทศมากกว่า เมื่อสองพลังนี้ทำงานไม่พร้อมกัน Bond/swap 2y จึงกว้างขึ้นมาอยู่ที่ 14bp สูงที่สุดในรอบ 5 ปี หรือถ้าเป็นสถิติในรอบ 1 ปี ก็เกินกว่า 3 S.D. ถือเป็นความผิดปกติขั้นรุนแรง
  • คำถามมีอยู่ว่า ถ้า bond/swap 2y จะแคบกลับสู่ระดับปกติกว่านี้ได้ จะเกิดจาก bond curve สูงขึ้น หรือ swap curve ลดลง?
  • ปัจจัยลบในระยะข้างหน้ามีอะไรบ้าง เงินเฟ้อขยับไปถึงขอบบนของ inflation target? กลางปีหน้าอาจจะเริ่มมีสุ้มเสียงตามสื่อมวลชนเสนอให้มีการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยปลายปีหน้าหนึ่งหรือสองท่านในกนง. โหวตให้ขึ้นดอกเบี้ย? การขึ้นดอกเบี้ยในทั่วโลกและเพื่อนบ้านกดดันให้แบงก์ชาติอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยตามเร็วกว่าที่เคยคาด? หรือรัฐบาลมีการออกพรก.กู้เงินเพิ่ม? ฯลฯ
  • แต่สำหรับ swap 2y แล้ว เชื่อว่าน้อยคนที่จะเห็นด้วยกับ swap curve ที่บอกเราว่า จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งภายใน 2 ปีข้างหน้า ต่อให้ขึ้นจริง จะขึ้นได้ต่อเนื่องเป็น cycle ได้จริงแค่ไหน?
  • สำหรับ บอนด์ 2 ปี แม้จะน่าซื้อ แต่ก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่มี holding power ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่อเรื่อง mark-to-market (ถ้ามี) ความลึกของกระเป๋าที่จะไม่ต้อง stop loss กลางทาง
  • รวมความแล้ว น่าจะพอมีข้อสรุปได้สัก 3 ประการ ประการแรกคือ การซื้อบอนด์ 2 ปี จะเป็นไปเพื่อ carry เท่านั้น หวังจะซื้อเพื่อ capital gain คงจะยาก ประการที่สองคือ bond/swap 2y อาจจะกว้างแบบนี้ไปอีกนาน เนื่องมาจากการ receive swap จะมีความเสี่ยงเรื่อง mark-to-market รวมถึงปัจจัยด้าน accounting มากกว่าการซื้อบอนด์

  • และประการสุดท้าย cycle ของ bull steep ที่เป็น theme ใหญ่ตั้งแต่ก่อนโควิทน่าจะปิดฉาก และค่อย ๆ ขยับเข้าสู่ cycle ของ bear flat แม้จะไม่รุนแรงเท่าในหลายประเทศก็ตาม

เกี่ยวกับนักเขียน

สงวน จุงสกุล Head of Investment & Markets Reserch Krungthai Bank Head of Investment & Markets Reserch Krungthai Bank

อ่านบทความทั้งหมดของนักเขียน