THE GURU • EXECUTIVE COACHING

การ “ชมเชย” คือเคล็ดลับ ของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ

บทความโดย: พรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุล

เมื่อผู้นำประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักก็คือ ทีมงานของเขาจะต้องได้รับการยอมรับมากกว่าตัวเขาเอง เมื่อเขาให้เครดิตทั้งหมดกับทีมงาน เขาก็จะได้รับส่วนแบ่งของการยอมรับเช่นเดียวกัน

            คงไม่มีใครต้องการ “เจ้านาย” ที่เป็นเพียงนายจ้าง แต่ทุกคนอยากได้ “ผู้นำ” ที่มีความเชื่อมั่นว่าทีมงานของเขามีคุณสมบัติที่ดี และปฏิบัติต่อคนของเขาอย่างมีคุณธรรมและจริงใจ 

            การทำงานอย่างมีความสุขและสนุก ไม่เพียงเพื่อต้องการเงิน แต่สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต้องการเหมือนๆ กันก็คือ การได้รับการยอมรับและรู้สึกมีความสำคัญ ฉะนั้น คนเราจะตอบสนองต่อคำชมมากกว่าการลงโทษ ไม่มีสิ่งใดสร้างกำลังใจให้ผู้คนทำงานหนักขึ้น สร้างผลงานที่มีคุณภาพมากขึ้น เท่ากับการที่ผู้นำของเขาสังเกตเห็นและชื่นชมสิ่งที่เขาได้ทำให้บรรลุแล้วนั้น 

            แต่ก็มีผู้นำจำนวนมากที่ชมเชยใครไม่เป็น นอกจากการวิพากษ์วิจารณ์ หรือตำหนิติเตียน ในขณะที่ผู้นำที่ประสบความสำเร็จจะตระหนักว่า การชมเชย คือเคล็ดลับที่สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม

การชมเชยที่จริงใจ คือการจูงใจที่ได้ผลที่สุดรูปแบบหนึ่ง 

            การที่เราปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างมีคุณธรรม ซื่อสัตย์และจริงใจ ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้เขารู้สึกดีเกี่ยวกับงานของเขา วิธีการที่ดีที่สุดคือ การให้รางวัลกับสิ่งดีๆ ที่เขาทำ แทนที่จะขุดคุ้ยเกี่ยวกับข้อผิดพลาด

            ถ้าเราอยากให้ใครประสบความสำเร็จ ก็ให้เริ่มต้นด้วยการชมเขาทันทีที่เห็นเขาเริ่มทำสิ่งต่างๆ ได้ถูกต้อง ทุกๆ คนต้องการได้รับคำชมสำหรับงานที่ทำได้ดี ถ้าเราเริ่มชมเชยต่อพฤติกรรมที่ประสบความสำเร็จ คนๆ นั้นก็ปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับเช่นนั้นอีก จึงมีความกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ 

            การชมเชยเป็นอะไรที่มากกว่าการแผ่อิทธิพลในทางบวก สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้เลยทีเดียว ผู้คนจะเปลี่ยนไปในทางที่เราคาดหวังให้เขาเป็น ฉะนั้น ในฐานะผู้นำ เราควรจะคาดหวังว่าทีมงานทุกคนจะเติบโตไปในระดับที่เราตั้งไว้ให้เขา ถ้าเรามีความเชื่อมั่นในความสามารถของเขา ในไม่ช้าเขาก็จะเชื่อว่าตนเองสามารถทำได้

อย่าซ่อนคำชมไว้ ให้ชมในที่สาธารณะ

            เมื่อเราชื่นชมผู้คนสำหรับบางสิ่งบางอย่างที่เขาทำได้ถูกต้อง เป็นการดีมากที่จะบอกเขาให้ทราบโดยไม่รอช้า และจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าเราบอกเขาต่อหน้าผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เขามีความภาคภูมิใจมากขึ้น และยังเป็นการดีต่อผู้ที่ร่วมรับฟังอยู่ด้วย เพราะจะจูงใจให้พวกเขาอยากจะทำสิ่งดีๆ เพื่อให้ได้รับคำชมเช่นเดียวกัน 

            คนเราชอบที่จะได้รับการยอมรับ การแสดงการยอมรับไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อน สามารถเป็นสิ่งที่ง่ายๆ เพียงแค่กระดาษโน้ตที่เขียนว่า “คุณทำได้ยอดเยี่ยมมาก ฉันภาคภูมิใจในตัวคุณมาก” หรือแค่โทรศัพท์บอกว่า “ขอแสดงความยินดีด้วย ฉันดีใจที่มีคุณอยู่ในทีมของเรา”

ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ จะให้เครดิตกับคนของเขา สำหรับความสำเร็จของตนเองเสมอ 

            เมื่อผู้นำประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักก็คือ ทีมงานของเขาจะต้องได้รับการยอมรับมากกว่าตัวเขาเอง เมื่อเขาให้เครดิตทั้งหมดกับทีมงาน เขาก็จะได้รับส่วนแบ่งของการยอมรับเช่นเดียวกันในฐานะผู้นำทีม ฉะนั้น ควรให้ทีมงานรับรู้ว่าทุกคนทุ่มเทเพื่อความสำเร็จร่วมกัน ผู้นำที่ยิ่งใหญ่จะไม่มีวันปล่อยให้คนของเขาคิดว่า พวกเขาทำงานก็เพียงเพื่อช่วยให้เจ้านายได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หรือเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนก้อนใหญ่เท่านั้นเอง

การชมเชยต้องให้เป็นไปตามธรรมชาติ 

            เราไม่อาจตั้งเป้าหมายว่าจะต้องกล่าวชมใครสัปดาห์ละกี่ครั้ง แต่ต้องมองหาเหตุผลที่แท้จริงที่จะชมเชยใครก็ตาม พยายามฝึกที่จะกล่าวคำพูดที่ดีทุกครั้งต่อผู้คนที่เราพบ ให้ใส่ใจในคุณสมบัติที่ดีของเขาด้วยทัศนคติในเชิงบวก 

            เมื่อเราสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เขาทำได้ดี เราสามารถบอกให้เขารับรู้ด้วยความชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ทัศนคติ ความคิด หรือความก้าวหน้าต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่การชมเชยต้องให้เป็นธรรมชาติ ต้องมาจากความจริงใจ จึงจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี

เราไม่สามารถเปลี่ยนคุณภาพพื้นฐานของผู้คนได้ 

            สิ่งผิดพลาดพื้นฐานที่ผู้นำมักจะทำก็คือ การพยายามเปลี่ยนผู้อื่น โดยพุ่งความสนใจไปที่จุดอ่อนของเขา และพยายามจะเปลี่ยนจุดอ่อนเหล่านั้นให้เป็นจุดแข็ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้โดยง่าย เพราะทุกคนมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน การเพ่งความใส่ใจไปในเรื่องลบ เป็นการสร้างทัศนคติของการวิพากษ์วิจารณ์และไม่ยอมรับ ถ้าเราไม่ฝึกที่จะมองหาสิ่งที่เป็นบวกจนเป็นนิสัย เราก็ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้

เหรียญอีกด้านของการชมเชย

            ในกรณีที่คนบางคนทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นผลดีต่อทีมงานหรือธุรกิจ ก็ต้องบอกให้เขารับรู้เช่นกันว่า การกระทำของเขาไม่เป็นที่ยอมรับ หรือบอกให้รู้ว่าผลงานของเขายังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเราสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องตำหนิติเตียนคนๆ นั้น แต่แสดงการชื่นชมคนอื่นที่ทำได้ดีแทน การถูกยกเลิกการชมจะส่งผลยิ่งกว่าการถูกตำหนิหลายเท่า ผู้คนจะหิวกระหายคำชมมากกว่า เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้การยอมรับและการชมเชยอีกครั้ง 

อย่าวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียน 

            เราจะไม่มีวันสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพด้วยการวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิติเตียน เมื่อคนบางคนทำสิ่งต่างๆ ได้ไม่ดี วิธีที่ดีที่สุดที่จะให้เขาเห็นมุมมองของเราและปรับปรุงพฤติกรรมของเขาก็คือ การให้คำแนะนำปรึกษา การโค้ช และการให้กำลังใจ แสดงการรับรู้ถึงความพยายามที่เขาได้ทุ่มเท แสดงความเชื่อมั่นในความสามารถของเขา และให้คนๆ นั้นคงความรู้สึกดีๆ ในความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้เสมอ 

อย่าลืมรับรู้ความดีของบุคคลอื่น อย่าหยุดที่จะชมเชย

            ผู้นำควรจะมีความใส่ใจในทีมงานของตนอย่างทั่วถึงและยุติธรรม ไม่ควรมองข้ามการแสดงการรับรู้ในความดีสำหรับผลงานหรือพฤติกรรมที่ใครก็ตามได้แสดงให้เห็นประจักษ์แล้ว ควรขอบคุณอย่างจริงใจหรือชมเชยในที่สาธารณะ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้เขาทำความดีต่อไป และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลากรอื่นๆ ในองค์กร ให้มีความศรัทธาในการทำความดี รวมทั้งมีความเชื่อมั่นในคุณธรรมของผู้นำด้วย



เกี่ยวกับนักเขียน

พรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุล CPA & Executive Coach / โค้ชผู้บริหาร เพื่อความสุขและความสำเร็จ อดีต CFO ผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินในองค์กรขนาดใหญ่และบริษัทข้ามชาติมากกว่า 30ปี ในธุรกิจหลายประเภท ให้การปรึกษาและฝึกอบรมพัฒนาผู้บริหารมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี และเป็น “Licensee” ของ “LMI” - Leadership Management International Inc. ในการอำนวยการเรียนรู้หลักสูตรด้านพัฒนาผู้นำระดับสากล

อ่านบทความทั้งหมดของนักเขียน