เปิดกองทุนประหยัดภาษี SSF RMF ผลตอบแทนเด่น

การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงโค้งสุดท้ายของปี สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหากองทุนทั้งสองประเภทไม่ว่าจะมีเป้าหมายเพื่อปรับพอร์ต หรือรวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน การเงินธนาคาร ได้รวบรวมกองทุน RMF และกองทุน SSF ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม 10 อับดับแรก ข้อมูลจาก บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย 10 อันดับกองทุน SSF ที่สร้าง ผลตอบแทนได้สูงสุด ในระยะเวลา 1 ปีที่ 6.20-11.01%

อันดับ 1 กองทุนเปิดเคเคพี แอ็กทิฟ อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม (KKP ACT EQ-SSF) ให้ผลตอบแทน 1 ปีที่ 11.01%

       กองทุนเปิดเคเคพี แอ็กทิฟ อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตสูงในระยะปานกลางถึงระยะยาว ในสัดส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 2 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดเพื่อการออม (M-MIDSMALL-SSF) ให้ผลตอบแทน 10.51%

       กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี มิด สมอล แค็ป ชนิดเพื่อการออม เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเฉลี่ยในรอบปี บัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 3 กองทุนเปิด แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออมและสะสมมูลค่า (LHSTRATEGY-ASSF) ให้ผลตอบแทน 7.11%

       กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจะเน้นการลงทุนด้วยการสร้างกลุ่มหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนให้มีความผันผวนต่ำ เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนโดยรวมของกองทุนให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นดังกล่าวจะส่งผลให้กองทุนมี Net Exposure ในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 4 กองทุนเปิด แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออมและจ่ายเงินปันผล (LHSTRATEGY-DSSF) ให้ผลตอบแทน 7.01%

       กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจะเน้นการลงทุนด้วยการสร้างกลุ่มหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนให้มีความผันผวนต่ำ เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนโดยรวมของกองทุนให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด

อันดับ 5 กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ หุ้นระยะยาว ชนิดเพื่อการออม (KWI EQ SSF) ให้ผลตอบแทน 6.95%

      กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนหรือตราสารแห่งทุน ซึ่งผลตอบแทนของตราสารดังกล่าว อ้างอิงกับผลตอบแทนของหุ้นหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET 50

อันดับ 6 กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม (BEQSSF) ให้ผลตอบแทน 6.52%

       กองทุนจะลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ส่วนที่เหลือ จะลงทุนในตราสารทุนนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น หุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียน ตราสารหนี้ ตราสารการเงิน เงินฝาก ทรัพย์สินทางเลือก

อันดับ 7 กองทุนเปิดเคเคพี SET50 ESG ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (KKP SET50 ESG-SSFX) ให้ผลตอบแทน 6.49%

      กองทุนจะลงทุนในตราสารทุนโดยมี Net Exposure ในตราสารดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม

อันดับ 8 กองทุนเปิดเคเคพี SET50 ESG ชนิดเพื่อการออม (KKP SET50 ESG-SSF) ให้ผลตอบแทน 6.49%

      กองทุนจะลงทุนในตราสารทุนโดยมี Net Exposure ในตราสารดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวม

อันดับ 9 กองทุนเปิดพรินซิเพิล เซ็ท 50 อินเด็กซ์เพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (PRINCIPAL SET50SSF-SSFX) ให้ผลตอบแทน 6.20%

       กองทุนมีนโยบายสร้างผลตอบแทนของกองทุนรวมให้เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 โดยลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี SET50 และ/หรือหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆที่มีผลในการคำนวณดัชนี SET50 โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 10 กองทุนเปิดพรินซิเพิล เซ็ท 50 อินเด็กซ์เพื่อการออม ชนิดเพื่อการออม (PRINCIPAL SET50SSF-SSF) 6.20%

      กองทุนมีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้เป็นไปตามการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 โดยลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี SET50 และ/หรือหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่มีผลในการคำนวณดัชนี SET50 โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

RMF หุ้น ลงทุน 5 ปี ให้ผลตอบแทน 7.53 -10.39%

สำหรับ 10 อันดับ กองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนสุงสุด ย้อนหลัง 5 ปี มีดังนี้

อันดับ 1 กองทุนเปิดทหารไทย US500 เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBUS500RMF) ให้ผลตอบแทน 10.39% ต่อปี

       กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนจะใช้นโยบายในการบริหารเชิง โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NewYork Stock Exchange, NYSE Arca) และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสกุลเงินหลัก

อันดับ 2 กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป (TUSRMF-A) ให้ผลตอบแทน 9.98% ต่อปี

      กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR S&P 500 ETF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500

อันดับ 3 กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KGHRMF) ให้ผลตอบแทน 9.03% ต่อปี

       กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JPMorgan Funds - Global Healthcare Fund, Class A (acc) - USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปี บัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุน

อันดับ 4 กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMSRMF-B) ให้ผลตอบแทน 8.44% ต่อปี

       กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือเอ็มเอไอ โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 5 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นญี่ปุ่น เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMJP) ให้ผลตอบแทน 8.14% ต่อปี

       กองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุน Nikkei 225 Exchange Traded Fund ที่บริหารงานภายใต้ความดูแลของ Nomura Asset Management Co.,Ltd. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมููลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนทั้งหมดที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนิกเคอิ 225

อันดับ 6 กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (P) (TMSRMF-P) ให้ผลตอบแทน 7.75% ต่อปี

       กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือเอ็มเอไอ โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 7 กองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (A) (TMSRMF-A) ให้ผลตอบแทน 7.75% ต่อปี

      กองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือเอ็มเอไอ โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 8 กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (TJPRMF)ให้ผลตอบแทน 7.57% ต่อปี

      กองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Nomura NIKKEI 225 Exchanged Traded Fund ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ที่ลงทุนในหุ้นในกลุ่มดัชนี Nikkei 225

อันดับ 9 กองทุนเปิดทหารไทย Japan Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBJERMF) ให้ผลตอบแทน 7.55% ต่อปี

      กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ Nikkei 225 Exchange Traded Fund ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

อันดับ 10 กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBGQGRMF) ให้ผลตอบแทน 7.53% ต่อปี

      กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือกองทุน Wellington Global Quality Growth Fund ในหน่วยลงทุนชนิดUSD Class S Accumulating Unhedged โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ