WEALTH • PROPERTY

เช็ค! เงินในกระเป๋าอย่างไร ให้ได้คอนโดอย่างที่ต้องการ

การเลือกซื้อคอนโดมีเนียม นับเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ดังนั้น การตัดสินใจก่อนจะเลือกซื้อ ต้องมีความรอบคอบ ยิ่งในภาวะช่วงนี้ ที่ตัวเลือกมีมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะตรวจเช็คเงินในกระเป๋าอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการในการเลือกซื้อคอนโดฯ อย่างเหมาะสม

เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง มีคำตอบ โดยจะมาแชร์ทริคเพื่อตรวจเช็คเงินเก็บในกระเป๋า ก่อนเตรียมไปช็อปคอนโดฯ ได้อย่างที่เราต้องการ


ปัจจัยที่ 1 รายได้คงที่ต่อเดือน

หากว่าเราไม่ได้ซื้อด้วยเงินสดทั้งก้อนเต็มจำนวน เราจะต้องยื่นกู้จากธนาคาร โดยทางธนาคารจะเริ่มพิจารณาเบื้องต้นจาก “รายได้คงที่ต่อเดือน” บางคนที่มีงานประจำ “รายได้คงที่ต่อเดือน” ก็คือ เงินเดือน แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีงานประจำ คำว่า “รายได้คงที่ต่อเดือน” จะหมายถึงรายได้ที่เราได้รับในจำนวนประมาณเท่าๆ กันในทุกๆ เดือน เพื่อให้ทางธนาคารมั่นใจได้ว่า เรามีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้นั่นเอง

ทางธนาคารจะทำการประเมินวงเงินกู้ โดยจะคิดจากจำนวนเงิน ที่ผู้กู้สามารถผ่อนชำระได้ในแต่ละงวด โดยอัตราส่วนเบื้องต้น คือ จำนวนเงินผ่อนต่องวด ที่ 6,000 บาท ต่อยอดหนี้ 1 ล้านบาท หรือ ผ่อนล้านละ 6,000 บาท ดังนั้น หากมีเงินเดือน 20,000 บาท ราคาคอนโดที่สามารถกู้ ซื้อได้จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท เป็นต้น

สำหรับคอนโดฯ พร้อมอยู่ ลูกค้าที่ซื้อเป็นบ้านหลังแรกสามารถกู้ได้ 100% และยังสามารถกู้ตกแต่งเพิ่มได้อีก 10% รวมแล้ว สามารถกู้ได้เป็น 110% แต่อัตราดอกเบี้ยที่ยอดกู้ 110% นี้ จะมีอัตราสูงกว่าปกติ แต่ในกรณีลูกค้า ยื่นกู้เป็นบ้านหลังที่ 2 ลูกค้าต้องมีเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10%


ปัจจัยที่ 2 รายจ่ายที่จำเป็นต่อเดือน

โดยปกติแล้ว ลูกค้ามีจ่ายที่จำเป็นต่อเดือนอยู่แล้ว อาทิ ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ คือ “ภาระหนี้” ซึ่งภาระหนี้ที่มีทั้งหมดต้องมีไม่เกิน 40-50% ของฐานรายได้ ซึ่งในบางธนาคารมีเงื่อนไขในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อที่ง่ายขึ้น และข้อดีของการกู้ซื้อคอนโดฯ ในช่วงนี้คือ อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงทำให้ภาระการผ่อนต่อเดือนลดลงด้วย


ปัจจัยที่ 3 การเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ได้สินค้าที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด

การซื้อคอนโดฯ ไม่เหมือนกับซื้อรถ เพราะคอนโดฯ คือการลงทุนระยะยาว และมูลค่าของคอนโดฯ ไม่ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับรถ เมื่อเราซื้อรถ เราอาจจะไปศูนย์ที่ให้ราคาดีที่สุดได้ แต่การซื้อคอนโดฯ นอกจากจะเลือกราคาดีที่สุดแล้ว ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นที่ให้ การดูเรื่องค่าส่วนกลาง การเปรียบเทียบด้านทำเล ดังนั้นเราไม่ควรวู่วาม และต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด ที่สำคัญควรมีตัวเลือกให้เปรียบเทียบหลายๆ ช้อยส์ 



ปัจจัยที่ 4 วัตถุประสงค์ในการใช้เงินซื้อคอนโดฯ

แม้ว่าเราจะตรวจเช็คเรื่องเงินอย่างรอบคอบแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ถามความต้องการของตัวเองให้แน่ใจว่า “เราจะซื้อไปเพื่ออะไร” คำถามนี้จะทำให้เรามีสติในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์ซื้อเพื่ออยู่อาศัย หากเป็นวัตถุประสงค์นี้เราจะต้องมุ่งไปที่ความจำเป็นในชีวิตของเราเป็น หลัก เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, ทำเลที่เหมาะสมเพราะจะช่วยประหยัดเงินในการจ่ายค่าเดินทางด้วย, การมีส่วนกลางของคอนโดฯ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่เราในอนาคต

       - วัตถุประสงค์ซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 สำหรับสิ่งจำเป็นในการซื้อบ้านหลังที่ 2 นี้ เราจะต้องดูว่าซื้อไว้เพราะอยู่ใกล้โรงเรียนลูก ใกล้ที่ทำงาน ใกล้โรงพยาบาล ไว้สำหรับพักผ่อน ฯลฯ เพราะการมีบ้านหลังที่ 2 นั่นหมายถึงว่าคุณต้องมีความมั่นคงทางการเงินมากพอที่จะรับภาระค่าใช้จ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบเรื่องเงินในภายหลัง

       - วัตถุประสงค์ ซื้อเพื่อปล่อยเช่า อันนี้ หากมองให้เป็นเงินออม เราต้องเลือกทำเลที่ปล่อยเช่าง่าย มีความต้องการเช่าด้วย สิ่งสำคัญที่สุด ต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าที่จะเช่าเป็นใคร ปล่อยเช่าได้ประมาณเท่าไร มีความคุ้มค่าหรือไม่

        - วัตถุประสงค์ซื้อเพื่อออมเงิน การซื้อเพื่อออมเงินไว้สำหรับขายต่อในอนาคตนั้นเป็นเรื่องของการลงทุน ระยะยาว ดังนั้น ห้องที่ซื้อเพื่อออมเงินต้องเป็นห้องที่ถูกคาดการณ์ไว้แล้วว่าอนาคตในอีก 3 ปีข้างหน้า หากว่าเราขายต่อ เราจะขายได้ไม่ขาดทุน หรืออย่างน้อยต้องได้ return ดีมากกว่าการฝากธนาคาร

จากปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว เป็นหลักในการพิจารณาเลือกซื้อคอนโดฯ เบื้องต้น ที่แนะให้ลองนำไปใช้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกสิ่งที่ใช่ และได้สิ่งที่ชอบ อย่างรอบคอบที่สุด

Related keywords:

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง