THE GURU • FENG SHUI TIPS

ประตูหลักของบ้าน สำคัญไฉน?

บทความโดย: กชกร พรมไชย

ควรออกแบบประตูหลักของบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อที่จะได้แน่ใจว่า ทุกย่างก้าวที่ผ่านประตูหลักเข้ามาในบ้าน คุณได้นำพลังมงคลอันยอดเยี่ยมจากภายนอกเข้ามาสะสมเพิ่มพูนไว้ภายในบ้าน แล้วยังแพร่กระจายไปทั่วบ้านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยทำให้คุณและครอบครัวทุกคนในบ้านได้รับพลังแห่งความมั่งมีศรีสุข และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแบบมั่นคงอย่างยั่งยืน

            ประตูหลักเข้าบ้าน เป็นจุดสำคัญในการเชื่อมต่อพลังงานของสิ่งแวดล้อมภายนอกให้เข้ามาสู่พื้นที่ภายในบ้าน ดังนั้น ประตูทางเข้าหลักที่ดีที่สุดควรตั้งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจน และมีลักษณะที่มั่นคง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการยินดีต้อนรับพลังแห่งความสงบสุข และมีโชคลาภด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความแข็งแกร่งปลอดภัยมากพอที่จะสกัดกั้นพลังงานไม่ดีไม่ให้เข้ามาสู่พื้นที่ภายในตัวบ้านด้วยเช่นกัน

            เพียงแค่ประตูหลักของบ้านก็สามารถกำหนดอะไรในชีวิตคุณได้หลายอย่างแล้ว หากประตูหลักของบ้านคุณอยู่ในลักษณะไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย หรือมีความชำรุดเสียหายแล้วไม่แก้ไข แม้จะจัดวางฮวงจุ้ยภายในบ้านดีเลิศเพียงใด ก็ยังจะได้รับผลกระทบจากภัยที่มองไม่เห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจสังเกตได้จากเรื่องการงาน การเงิน การเรียน หรือความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณมีปัญหาติดขัด หรือมีสุขภาพอ่อนแอเจ็บป่วยอยู่เป็นประจำ ฉบับนี้ได้เวลามาสำรวจประตูหลักของบ้านคุณว่ามีความสอดคล้องกับ 9 ลักษณะประตูหลักของบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ยหรือไม่อย่างไร

1) ประตูแห่งความมั่นคง

            ประตูหลักของบ้านเป็นกุญแจหลักแห่งความมั่นคงของบ้าน ดังนั้น ประตูหลักของบ้านควรมีลักษณะที่ดูมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย และทำด้วยวัตถุทึบที่มองไม่เห็นข้างในบ้าน ซึ่งอาจจะสร้างด้วยวัสดุอะไรก็ได้ ตัวอย่างเช่น ทำด้วยไม้ เหล็ก หรืออะลูมิเนียม เป็นต้น แต่ในที่นี้ขอแนะนำเป็นประตูไม้ทึบจะดีที่สุด รวมทั้งประตูต้องมีขอบประตูที่มั่นคงแข็งแกร่งทนทาน เพื่อตั้งรับการไหลเวียนของกระแสพลังมงคลจากภายนอกให้เข้ามาสู่ภายในบ้านได้อย่างราบรื่นแบบมั่นคงตลอดกาล

2) ประตูขนาดใหญ่

            ขนาดประตูที่มีขนาดใหญ่ กว้าง สูงโปร่ง นับเป็นประตูที่ดีถูกตามหลักฮวงจุ้ย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไปจนดูล้นบ้าน ขนาดประตูหลักเข้าบ้านต้องสอดคล้องกับทางเดินเข้าบ้านที่กว้างพอ ก็จะช่วยทำให้การเคลื่อนไหวของผู้คนเดินเข้าออกได้สะดวก รวมทั้งการเคลื่อนไหวของพลังงานก็ไหลถ่ายเทผ่านประตูได้สะดวกตามไปด้วย 

3) ประตูปราศจากภัยคุกคาม 

ประตูปราศจากภัยคุกคาม ควรมีทางเดินเข้าบ้านที่มีลักษณะกว้างและคดเคี้ยวพองาม ไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น หรือทิ่มแทงประตูหลักของบ้านคุณ หรือมีทางเดินที่มีลักษณะทั้งตรงทั้งแคบและยาวเกินไปมุ่งสู่ประตูหลักของบ้าน หรือมีบางอย่างตั้งวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน เช่น เสาไฟถนนต้นเดียว หรือมีต้นไม้สูงต้นเดียว หรือต้นไม้ตายซากอยู่หน้าประตูบ้าน หรือมีมุมแหลมของตึกอาคารอื่นพุ่งทิ่มแทงเข้ามาที่ประตูบ้านของคุณ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภัยคุกคามเข้ามายังบ้านของคุณ อาจจะนำโชคร้ายทำให้คนในบ้านล้มป่วย และมีปัญหาการเงิน การงานติดขัด ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีปัญหาแตกแยกเข้ามาสู่สมาชิกทุกคนในบ้าน

4) ประตูหลักที่มีสองบาน

            หากบ้านของคุณมีลักษณะประตูหลักอยู่สองบานเท่าๆ กัน ถือว่าดีมาก และจะดียิ่งขึ้นหากเปิดบานประตูไว้ทั้งสองข้าง แต่ถ้าหากคุณเปิดบานประตูไว้ใช้เข้าออกเพียงข้างเดียว ก็เปรียบเสมือนว่า คุณได้เปิดรับพลังแห่งโชคลาภและโอกาสที่ดีให้เข้ามาเพียงครึ่งเดียว รวมทั้งยังหมายความว่า สิ่งใดก็ตามที่คุณหรือสมาชิกในบ้านของคุณเริ่มต้นไว้จะเสร็จแบบครึ่งๆ กลางๆ อีกด้วย ดังนั้น หากคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดใช้งานทั้งสองบานก็ไม่ควรสร้างประตูบ้านแบบสองบานในลักษณะดังกล่าวนี้จะดีที่สุด

5) ประตูกระจก

            ข้อห้ามทางฮวงจุ้ยเรื่องประตูกระจกไม่เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นประตูหลักของบ้าน การติดประตูกระจกที่คุณสามารถเปิดปิดประตูแล้วแต่ก็ยังมองเห็นข้างในบ้าน เปรียบเสมือนกับการมีตู้เลี้ยงปลาที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวนั่นเอง ส่วนบ้านสมัยใหม่ที่เน้นความโล่งโปร่งด้วยการติดตั้งประตูกระจกบานใหญ่ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีผ้าม่านหนาปิดทึบด้านในบ้านอีกชั้นหนึ่ง 

ในอีกแง่มุมหนึ่งประตูกระจก ก็มีข้อดีที่เหมาะสำหรับติดตั้งในศูนย์การค้าเพื่อที่คุณจะได้ดูความเคลื่อนไหวของลูกค้าของคุณ หรือประตูกระจกในอาคารสำนักงานจะเป็นข้อดี หากคุณต้องการสอดส่องดูแลพนักงานของคุณ

6) ประตูโค้ง

            หากคุณคิดจะทำประตูหลักเข้าบ้านที่มีลักษณะโค้ง หรือครึ่งวงกลม หรือวงกลม หรือวงรี ซึ่งล้วนเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และไม่ผิดฮวงจุ้ย แต่ต้องตั้งอยู่ในตำแหน่งถูกทิศทาง  ด้วยความส่วนที่เป็นรูปทรงโค้งต่างๆ เหล่านี้สื่อถึงพลังของธาตุทอง จึงเหมาะกับบริเวณทิศที่เป็นธาตุทองของบ้านเท่านั้นนั่นก็คือ ประตูที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตก กับทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 

            แต่ไม่เหมาะกับประตูหลักที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่สื่อถึงพลังธาตุไม้ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ กับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพลังธาตุดิน เพราะการกระทำเช่นนี้ จะไปปะทะทำลายบั่นทอนพลังมงคลตามวงจรห้าธาตุที่อยู่ในบริเวณนั้นให้หมดกำลังลง ส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ของคนในบ้าน และพลังแห่งโชคลาภที่จะเข้ามาในบ้านอีกด้วย

7) ประตูเลื่อน

            ในกรณีประตูหลักเข้าบ้านเป็นแบบเลื่อน ในทางฮวงจุ้ยไม่มีข้อบังคับเรื่องทิศทางการเลื่อนเปิด สะดวกด้านไหนก็เลื่อนประตูเปิดไปทางด้านนั้น แต่ต้องเป็นประตูทึบเท่านั้น หากเป็นประตูเลื่อนกระจกจึงไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เป็นประตูหลักของบ้านเพราะแสดงถึงความไม่เป็นส่วนตัว และขาดความแข็งแกร่งมั่นคง ประตูเลื่อนสามารถใช้ในบ้านได้จะเหมาะสมดีที่สุดหากใช้เป็นประตูรองที่เปิดไปแล้วเจอระเบียง หรือเจอสวนของบ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม นอกจากนี้ ยังช่วยดึงดูดเหนี่ยวนำพลังงานที่ดีจากพื้นที่ภายนอกบ้านให้เข้ามาอยู่ข้างในบ้านได้อีกด้วย

8) ประตูโรงรถ

            สำหรับบ้านที่มีประตูของโรงรถ ถ้าหากคุณจะเข้าบ้านผ่านทางประตูโรงรถ คุณก็ควรจะทำประตูเข้าบ้านภายในให้ดูกว้างใหญ่มั่นคงแข็งแรงด้วย ทางที่ดีคุณควรทำประตูหลักที่ดูแข็งแรงมั่นคงไว้ที่หน้าบ้านแยกส่วนออกมาต่างหากจากประตูของโรงรถด้วย และคุณควรใช้ประตูหลักหน้าบ้านนี้แทนเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมเยือน การที่คุณมาใช้ประตูหลักหน้าบ้านบ่อยๆ จะเป็นการช่วยกระตุ้นรับพลังแห่งโชคลาภและโอกาสใหม่ๆ ที่ดีให้เข้ามาสู่บ้านผ่านประตูนี้ไปในตัวอีกด้วย

9) ประตูใหญ่ประตูเล็ก

            ลักษณะของบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ย ควรมีประตูใหญ่และมีประตูเล็กเสมอ ในเชิงสัญลักษณ์ทางฮวงจุ้ยเปรียบเสมือนการมีแม่มังกรแล้วก็ต้องมีลูกมังกรด้วย เพื่อสื่อถึงการมีครอบครัวที่อุดมสมบูรณ์และมีลูกหลานมากมาย ซึ่งตำแหน่งลูกมังกรต้องอยู่ตำแหน่งที่ถูกต้องเท่านั้นนั่นก็คือ ตำแหน่งลูกมังกร ซึ่งเป็นประตูเล็กจะอยู่แยกออกจากประตูใหญ่ และไปอยู่ทางด้านซ้ายมือของประตูใหญ่ (เมื่อคุณยืนที่ประตูใหญ่แล้วหันหน้าออกไปสู่หน้าบ้านด้านซ้ายมือของคุณคือ ตำแหน่งลูกมังกรเสมอ) 

            และที่สำคัญ มีข้อห้ามตำแหน่งลูกมังกรอยู่สองตำแหน่งคือ ห้ามตั้งประตูเล็กไว้ตำแหน่งขวามือของประตูใหญ่ ซึ่งจะเรียกตำแหน่งนี้ว่า “ลูกเสือ” กับ ห้ามตั้งตำแหน่งประตูเล็กอยู่กลางประตูบานใหญ่เราจะเรียกตำแหน่งนี้ว่า “แม่มังกรท้องทะลุ” หากคุณสร้างประตูเล็กสำหรับให้คนเดินเข้าออกไว้ทางขวามือของประตูใหญ่ ผลเสียก็คือ ทำให้หัวหน้าครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านนี้มีปัญหาด้านมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน หากสร้างประตูเล็กไว้ตรงกลางประตูใหญ่ จะทำให้คนในบ้านมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ยาก

จะเห็นได้ว่า 9 ลักษณะประตูหลักของบ้านที่ถูกหลักฮวงจุ้ยนั้น สำคัญไฉน นอกจากนี้แล้วยังมีเบื้องหลังประตูก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน กล่าวคือ เมื่อคุณยืนอยู่ตรงประตูแล้วมองเข้าไปภายในบ้านสิ่งแรกที่มองเห็นก็ควรมีภาพสวยงาม หรือสิ่งของมงคล หรือมีแจกันดอกไม้สดพร้อมโถสมบัติตั้งต้อนรับอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลดีต่อโชคลาภ ความสำเร็จ ฐานะความเป็นอยู่ของคนในบ้านทุกคน  ในทางตรงข้ามหากเปิดประตูมองเข้าไปแล้วพบเจอสิ่งไม่ดี เช่น ห้องน้ำ เป็นต้น ก็จะส่งผลให้อับโชค การงานเสื่อมถอย หรือสุขภาพอ่อนแอได้ 

            ดังนั้น คุณควรดูแลแก้ไขป้องกันภัยคุกคามต่างๆ และออกแบบประตูหลักของบ้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อที่คุณจะได้แน่ใจว่า ทุกย่างก้าวที่ผ่านประตูหลักเข้ามาในบ้าน คุณได้นำพลังมงคลอันยอดเยี่ยมจากภายนอกเข้ามาสะสมเพิ่มพูนไว้ภายในบ้าน แล้วยังแพร่กระจายไปทั่วบ้านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยทำให้คุณและครอบครัวทุกคนในบ้านได้รับพลังแห่งความมั่งมีศรีสุข และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแบบมั่นคงอย่างยั่งยืน


เกี่ยวกับนักเขียน

กชกร พรมไชย ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยให้กับบริษัทชั้นนำและส่วนบุคคล ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย ทั้งยังเป็นผู้จัดทำหนังสือศาตร์แห่งฮวงจุ้ยบ้าน หนังสือการพยากรณ์ดวงชะตา 12 นักษัตรกับฮวงจุ้ยประจำปี และจัดทำปฏิทินมงคล 8 ประการ ที่รวมเอาฤกษ์มงคลในเรื่องขึ้นบ้านใหม่ ออกรถใหม่ เป็นต้น ไว้ในแผ่นเดียว

อ่านบทความทั้งหมดของนักเขียน