NEWS UPDATE • STOCK-DERIVERTIVE

นิกเกอิปิดลบ 180.31 จุด จากเงินเยนแข็งค่าหลัง BOJ ขยายกรอบบอนด์ยีลด์

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ลงมติขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ซึ่งตลาดมองว่าเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          ทั้งนี้ BOJ ลงมติขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% เป็น -0.5% ถึง +0.5%

          สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 26,387.72 จุด ลดลง 180.31 จุด หรือ -0.68% ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.

          หุ้นลบนำตลาดวันนี้ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มทองคำ

          ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,115.10 จุด เพิ่มขึ้น 90.80 จุด หรือ +1.29% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,293.00 จุด เพิ่มขึ้น 93.40 จุด หรือ +1.30%

          ดัชนีหุ้นกลุ่มทองคำพุ่งขึ้น 5.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.ปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยหุ้นนิวเครนท์ ไมนิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย พุ่งขั้น 6.5%

          ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวขึ้น 2.5% โดยหุ้นบีเอชพี กรุ๊ป, หุ้นริโอ ทินโต และหุ้นฟอร์เทสคิว ปรับตัวขึ้นราว 1.7% - 3%

          ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้น 2.6% ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นวูดไซด์ เอนเนอร์จี และหุ้นซานโตส ต่างก็ปรับตัวขึ้น 2%

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน

          ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,068.41 จุด ลดลง 5.36 จุด หรือ -0.17%

          เมืองต่าง ๆ ทั่วจีนต่างเร่งติดตั้งเตียงโรงพยาบาลเพิ่มเติมและสร้างคลินิกตรวจไข้เมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ขณะที่สหรัฐระบุว่า การที่จีนตัดสินใจยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิดกะทันหันสร้างความหวั่นวิตกให้กับทั่วโลก

          ในเดือนนี้ จีนเริ่มประกาศยกเลิกข้อบังคับตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ที่บังคับใช้มานานถึง 3 ปีอย่างกะทันหัน หลังเผชิญการประท้วงต่อต้านจากประชาชน แต่แลกมาด้วยความเสียหายอย่างมากต่อสังคมและเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และการปรับกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งบ่งชี้ถึงการหันไปใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินตามทิศทางธนาคารกลางทั่วโลก

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,328.95 จุด ลดลง 4.34 จุด หรือ 0.19% โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ 320.11 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.95 ล้านล้านวอน (3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 495 ต่อ 365 ตัว

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ลงอีก ซึ่งได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

          ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 19,160.49 จุด เพิ่มขึ้น 65.69 จุด หรือ +0.34%

          บรรดานักลงทุนขานรับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลฮ่องกงจะอนุญาตให้ประชาชนเข้าใช้บริการในบาร์ได้โดยไม่ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วนที่มีผลเป็นลบอีกต่อไป และยกเลิกการจำกัดจำนวนลูกค้าสำหรับสถานที่ต่าง ๆ ขณะที่ฮ่องกงยังคงเดินหน้าผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เหลืออยู่บางส่วนก่อนผู้นำฮ่องกงเดินทางเยือนจีน

          นางลิบบี ลี ปลัดกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การยกเลิกกฎการตรวจหาเชื้อก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงบาร์และไนต์คลับซึ่งบังคับใช้เมื่อเดือนมิ.ย.นั้น จะมีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ (22 ธ.ค.) เป็นต้นไป การจำกัดจำนวนคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานรื่นเริง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 240 คน ก็จะสิ้นสุดลงด้วยเช่นกัน แต่จะยังคงจำกัดจำนวนคนที่ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารในร้านไว้ที่ 12 คน ซึ่งอาจเป็นมาตรการต่อไปที่จะมีการผ่อนปรน