INTERVIEW • SPECIAL INTERVIEW

Special Interview : กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย

กฤษณ์

จันทโนทก

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไท


 เอไอเอ ประเทศไทย มีเป้าหมายคือ เป็นหนึ่ง ยืนหนึ่ง ที่หนึ่ง เป็นบริษัทไทยเพื่อคนไทย และอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ผ่านการดูแลเพื่อยกระดับสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย

ผมยังเชื่อว่า มนุษย์ถวิลหา ความเข้าใจ และการดูแลเอาใจใส่ ดังนั้น  ไม่กลัวเลยว่าดิจิทัลจะเข้ามาแทนที่ตัวแทนประกันชีวิต เพราะสินค้าที่ใช้ใจซื้อต้องใช้คนขาย

ในที่สุด เอไอเอ ประเทศไทย ก็ได้ต้อนรับผู้กุมบังเหียนคนใหม่ที่ชื่อ กฤษณ์ จันทโนทก ผู้บริหารคนไทยคนแรกที่ได้ครองตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กับบทพิสูจน์ความท้าทายที่มาพร้อมความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ที่มีเป้าหมายชัดเจน ที่จะทำให้บริษัทประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ที่คนไทยคุ้นเคย และอยู่คู่กับคนไทยมาถึง 83 ปีแห่งนี้ สามารถครองความเป็นหนึ่ง ยืนหนึ่งและเป็นที่หนึ่ง อย่างยั่งยืนในประเทศไทย


เปิดใจหัวหน้าครอบครัวเอไอเอ

กฤษณ์ เปิดใจให้สัมภาษณ์ การเงินธนาคาร ถึงการได้รับแต่งตั้งให้นั่งตำแหน่งซีอีโอคนไทยคนแรกของ เอไอเอ ประเทศไทย ว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นหัวหน้าครอบครัวของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานถึง 83 ปี รวมถึงมีผู้บริหาร พนักงาน และตัวแทนรวมเกือบ 60,000 คน อีกทั้งนโยบายที่ชัดเจนของกลุ่มบริษัทเอไอเอที่ต้องการให้เอไอเอใน 18 ประเทศทั่วโลกเป็นบริษัทที่ Think Global, Act Local ด้วยการสนับสนุนให้ผู้บริหารท้องถิ่นมาเป็นผู้บริหารธุรกิจในประเทศนั้นๆ

โดยมีภารกิจหลักในการเปลี่ยนแนวคิดของคนไทยที่เมื่อนึกถึงการมีสุขภาพที่ดี ก็จะต้องนึกถึงเอไอเอก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการทำให้เอไอเอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย ผ่านพันธกิจและคำมั่นสัญญาสำคัญของเอไอเอ “Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับเอไอเอ ได้พิสูจน์ให้เห็นความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากว่า 83 ปี และยืนหนึ่งในเรื่องของส่วนแบ่งทางการตลาด โดยครองอันดับ 1 มาถึง 45 ปี เห็นได้จากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่เอไอเอมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 24.30% ในส่วนของเบี้ยประกันภัยรับรวมของปี 2563 จากนี้ไปเป้าหมายของเอไอเอในปี  2564  คือ  การยืนหนึ่งในทุกมาตรวัด ทุกฝ่ายในองค์กรทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว นำเสนอนวัตกรรมทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการเป็นที่หนึ่งก่อนผู้อื่นเสมอ เป็นบริษัทไทยเพื่อคนไทย และเปลี่ยนบริบทจากการเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม หรือ Payor ไปเป็น Partner ที่อยู่ในทุกๆ วันของลูกค้า

กฤษณ์ กล่าวว่า เอไอเอต้องยืนหนึ่งในทุกมาตรวัด  ไม่ว่าจะเป็นความพึงพอใจของลูกค้า ส่วนแบ่งทางการตลาด ขนาดของธุรกิจ ผลกำไร รวมถึงมาตรวัดอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย โดยมีความเชื่อว่า หากสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ ถูกเวลา จะทำให้ในอนาคตเอไอเอ สามารถที่จะยืนหนึ่งในทุกมาตรวัดอย่างแน่นอน

ทั้งนี้  ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในองค์กรในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นบริษัทต่างชาติ หรือบริษัทไทย ดำเนินธุรกิจมานานแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้น หัวใจสำคัญคือเรื่องของคน แม้ว่าเอไอเอจะมีธุรกิจหลากหลาย ทั้งประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเป็นที่หนึ่งได้นั้น คือการที่พนักงานและตัวแทนของเอไอเอ ต้องมองเห็นเป้าหมายของบริษัทเป็นภาพเดียวกัน

หน้าที่ของผมคือ ทำให้พนักงานในทุกภาคส่วนมองโจทย์เดียวกับผม ทุกคนต้องพุ่งเป้าไปที่โจทย์เดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำให้เห็นชัดเจน เพื่อให้เอไอเอเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ การเข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวใหญ่ อย่าง เอไอเอ ประเทศไทย เป็นภารกิจที่มีความท้าทายอย่างมาก แต่ก็ยังมั่นใจว่า ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและความเป็นหนึ่งเดียวกันจะช่วยขับเคลื่อนครอบครัวเอไอเอให้เติบโตต่อไปได้

นอกจากนี้ เอไอเอ ต้องเป็นที่หนึ่งในการนำเสนอนวัตกรรมทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการก่อนผู้อื่นเสมอ เพราะการเป็นที่หนึ่งในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องของ Speed ถ้าจะ Fail ต้อง Fail ให้ Fast ถ้าจะทำอะไรใหม่ๆ ก็อย่าทำให้ใหญ่เกินไป รีบล้มให้เร็ว หรือรีบสำเร็จให้เร็ว แล้วค่อยขยาย Scale ออกไป ซึ่งที่ผ่านมา เอไอเอ ก็บริหารธุรกิจในแนวทางนี้มาตลอดและเข้มข้นขึ้นทุกที  เพราะ Speed คือทุกอย่าง เราต้องไปก่อนคนอื่น ถ้าเรามีนวัตกรรมที่ล้ำหน้าคนอื่น ในธุรกิจประกันชีวิตหรือในบริบทองค์รวม โอกาสที่ลูกค้าจะมาใช้บริการเราและเชื่อมั่นว่าเราจะนำแต่สิ่งดีๆ ไปสู่ชีวิตและสุขภาพของเขาก็จะมีมากขึ้น

โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อทำให้ลูกค้ามีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นตามคำมั่นสัญญา  “Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นโดยเฉพาะท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


ฉีกกรอบธุรกิจประกันชีวิต

กฤษณ์กล่าวว่า เอไอเอเป็นบริษัทคนไทยเพื่อคนไทย โดยเห็นได้จากการเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 83 ปี รวมถึงเป็นบริษัทที่บริหารงานโดยคนไทย ที่มีการนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ความมั่งคั่งและมั่นคงในระยะยาวของคนไทย ที่สำคัญ เอไอเอไม่ได้เข้ามาเพื่อแสวงหาผลกำไรเท่านั้น แต่เรายังมีความมุ่งมั่นในการนำเสนอกิจกรรมเพื่อคืนกลับสู่สังคมไทยอย่างต่อเนื่องด้วย

โดย เอไอเอ ต้องการเปลี่ยนบริบทจากการเป็นเพียงผู้จ่ายเคลม หรือ Payor เป็นการเข้าไปอยู่ในทุกๆ วันของลูกค้า  หรือเป็น Partner ที่คอยสนับสนุนด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น  ธุรกิจประกันชีวิตในโลกยุคใหม่หากไม่มีการปรับเปลี่ยน ใช้รูปแบบการทำธุรกิจเดิมที่เรียกว่า Transactional หรือความสัมพันธ์แบบซื้อขาย ซึ่งเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างห่างเหินระหว่างลูกค้ากับบริษัท นั่นคือเมื่อขายประกันแล้วลูกค้าก็ไม่เจอตัวแทนอีกเลย มาเจออีกครั้งตอนเคลม และเมื่อถือกรมธรรม์จนครบอายุสัญญาก็จบกันไป

หากปล่อยให้ความสัมพันธ์ถูกทิ้งช่องว่างไว้นานเกินไปขนาดนั้น คู่แข่งก็จะแย่งชิงลูกค้าของเราไปก่อน ซึ่งหากไม่มีการปรับเปลี่ยนให้ก้าวทันพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปอย่างทันท่วงที แน่นอนว่าคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ธุรกิจจะถูก Disrupt สูงมาก

ดังนั้น บนการตีโจทย์ภายใต้พันธกิจเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือ ต้องทำให้ทั้งลูกค้า พนักงาน และตัวแทน มองเอไอเอ เป็น Partner ไม่ใช่แค่บริษัทประกันทั่วไป แต่เอไอเอเป็นบริษัทที่ทันสมัยและเข้าใจลูกค้า พร้อมดูแลสุขภาพและชีวิตของคนไทยในทุกช่วงชีวิต ถ้านึกถึงสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ต้องนึกถึง เอไอเอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พนักงานและตัวแทนอยากร่วมงานกับเอไอเอ ลูกค้าเองก็จะอยากใช้บริการเอไอเอ และสุดท้าย เอไอเอ ก็จะสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าได้

เอไอเอ ประเทศไทย มีเป้าหมายคือ เป็นหนึ่ง ยืนหนึ่ง ที่หนึ่ง เป็นบริษัทไทยเพื่อคนไทย และอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ผ่านการดูแลเพื่อยกระดับสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย


3 โจทย์สุดท้าทาย

กฤษณ์กล่าวว่า จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การที่จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายกับ 3 โจทย์หลักๆ คือ

         โจทย์แรก Digitize องค์กร ทั้งกระบวนการขายประกัน การดูแลลูกค้า การชักชวนลูกค้า ขั้นตอนการเรียกร้องสินไหม (Claim) ต้องเป็นดิจิทัลทั้งหมด โดยบริษัทได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น iPoS+ มาช่วยในการทำงานของตัวแทน ซึ่งสามารถลดขั้นตอนความยุ่งยากลงไปได้โดยเป้าหมายของเอไอเอ คือการสร้างตัวแทนที่เป็น Digital Agent

        โจทย์ที่ 2 สร้าง Ecosystem เพื่อให้เกิดพันธมิตรใหม่ๆ เช่น การร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ALive Powered by AIA ซึ่งเป็นแอปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายประกันเลย แต่เป็นแอปที่จะมาตอบโจทย์กลุ่มคนที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าในวันนี้ แต่อาจจะมีความต้องการทำประกันในอนาคต

        โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือ คนมีครอบครัว หรือกำลังวางแผนมีลูก กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่มีลูกเล็ก ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า ทั้งสองกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการวางแผนครอบครัวที่ถูกต้อง และการเลี้ยงดูลูกเพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีที่สุดได้ง่าย ซึ่งแอป ALive จะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ โดยเราเปิดให้ดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี

        โดยภายในแอปจะมีข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องการเลี้ยงลูกที่ถูกวิธีการวางแผนครอบครัว การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ รวมไปถึงการวางแผนการเงินเพื่ออนาคตครอบครัว เป็นต้น ซึ่งจะเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศใหม่ผ่านลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์พันธสัญญา เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น

        โจทย์ที่ 3 บุกตลาดประกันยูนิต ลิงค์ เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลง ทำให้การขายประกันสะสมทรัพย์ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอีกต่อไป ทำให้เอไอเอกลับมาสำรวจความต้องการของลูกค้า และตั้งเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนว่าเราจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าของแบบประกันยูนิต ลิงค์ เห็นได้จากการเปิด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็น บลจ. ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันเปิดตัว

โดยจะเน้นดูแลผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิงค์ของเอไอเอ ให้ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ยูนิต ลิงค์ ซึ่งเรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า อยู่กว่า 150 คนจากทั่วโลก มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนเพื่อความคุ้มครองชีวิตและเพิ่มความมั่งคั่งในระยะยาวให้แก่ลูกค้า

 

รีครูทคนรุ่นใหม่สู่อาชีพตัวแทน

กฤษณ์กล่าวว่า โดยปกติการขายสินค้าประกันชีวิตผ่านช่องทางตัวแทน ต้องสอดคล้องกับโครงสร้างของประชากรแต่ละประเทศ เพราะธุรกิจประกันชีวิต จะขายได้ก็ต่อเมื่อคนมีเงินและมีห่วง ดังนั้น ตัวแทนที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าจะต้องมีเจเนอเรชั่นและยุคที่ใกล้กัน

ภารกิจแรกคือ เร่งรับสมัครหรือรีครูทคนรุ่นใหม่เข้ามาให้เร็วที่สุด และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามานั้นต้องก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยให้ไวที่สุด เพราะเชื่อว่าคนรุ่นเดียวกัน ก็จะชวนคนรุ่นเดียวกันมาร่วมงานด้วย สอดคล้องกับสินค้าของเอไอเอ ที่มีการพัฒนาให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ และคนรุ่นใหม่นี้เองก็จะไปนำเสนอผลิตภัณฑ์กับคนรุ่นเดียวกันกับเขา

ภารกิจที่สองคือ พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลที่จะช่วยตัวแทนในด้านการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย สะดวก และรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนยุคไหนสามารถใช้ได้หมด

คำถามคือ เราต้องถามตัวเองว่า แอปพลิเคชั่นที่เอไอเอพัฒนาขึ้นนั้น ใช้งานง่ายจริงหรือเปล่า เพราะถ้าเราพัฒนาให้แอปของเราใช้ง่าย ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าตัวแทนจะไม่ยอมนำแอปของเราไปใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

ภารกิจที่สามคือ สนับสนุนให้เจ้าของสำนักงาน ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายขาย และตัวแทน รุ่นพ่อ/รุ่นแม่ ส่งต่อธุรกิจไปสู่รุ่นลูกให้เร็วที่สุด เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของประชากร

ทั้งนี้ กฤษณ์มองว่า ดิจิทัลจะเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยให้ตัวแทนสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งความรวดเร็วและการตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด แต่ดิจิทัลไม่ได้มาแทนที่ตัวแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรูปแบบการขายประกันชีวิตเปลี่ยนไปสู่การเป็นที่ปรึกษามืออาชีพทั้งในเรื่องการวางแผนทางการเงินและการวางแผนชีวิตในอนาคต การที่บริษัทมีตัวแทนที่มีคุณภาพจะกลายเป็นบริการระดับพรีเมี่ยมที่ดิจิทัลไม่สามารถให้ได้ และยังเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ดีและมั่นคงให้กับตัวแทนอีกด้วย

ผมยังเชื่อว่า มนุษย์ถวิลหา ความเข้าใจ และการดูแลเอาใจใส่ ดังนั้น ไม่กลัวเลยว่าดิจิทัลจะเข้ามาแทนที่ตัวแทนประกันชีวิต เพราะสินค้าที่ใช้ใจซื้อต้องใช้คนขาย


บุกตลาดสุขภาพ ส่งมอบการดูแลทุกช่วงชีวิต

สำหรับแนวโน้มในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเอไอเอนั้น กฤษณ์กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โจทย์ก็คือ ทำอย่างไรเอไอเอจะสามารถเข้าไปดูแลผู้สูงอายุที่นับวันจะมีอายุที่ยืนยาว ทำอย่างไรจึงจะทำให้เอไอเอสามารถรับประกันผู้สูงอายุ ได้มากขึ้นและรับความเสี่ยงได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน สิ่งที่เริ่มมองเห็นคือ รูปแบบการนำเสนอสินค้าและบริการที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งออกมาในรูปแบบของ Wellness หรือความสุขสมบูรณ์ ทำอย่างไรให้บริษัทนั้นสามารถที่จะตอบโจทย์การดูแลสุขภาพจิต และสุขภาพกาย ให้ดีขึ้นได้

อีกหนึ่งเทรนด์ที่สำคัญ และเอไอเอบุกตลาดนี้มาก่อนคนอื่น คือ การมีค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมและเพียงพอ ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ แทบจะไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล ที่เพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) และโรคร้ายแรง โจทย์ของเอไอเอ คือการพัฒนาแผนประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองผลประโยชน์ค่าใช้จ่าย OPD ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้ในราคาที่เหมาะสม

ส่วนอีกหนึ่งโจทย์ที่สำคัญคือ การทำประกันโรคร้ายแรงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งจากข้อมูลของพอร์ตเอไอเอ วงเงินความคุ้มครองค่ารักษาโรคร้ายแรงต่อกรมธรรม์ อยู่ที่ประมาณ 500,000-700,000 บาทเท่านั้น ในขณะที่หากต้องรักษาโรคมะเร็งค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่หลักล้านบาท ซึ่งแม้จะมีประกันสุขภาพโรคร้ายแรงก็อาจจะยังไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นได้

สิ่งที่เอไอเอต้องการจะสื่อสารคือ แม้จะไม่มีกำลังซื้อประกันที่มีความคุ้มครอง OPD แต่ที่ต้องมีคือประกันโรคร้ายแรงเพราะถ้าป่วยด้วยโรคร้ายแรง นั่นหมายถึงว่าป่วยคนเดียวเจ็บทั้งบ้าน ดังนั้น โรคร้ายแรงจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่เคยละเลย และมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการมาอย่างต่อเนื่องและจะเข้มข้นมากขึ้นในอนาคต

 

12 บริการดิจิทัลจากเอไอเอ

สำหรับบริการดิจิทัลของ เอไอเอ ประเทศไทย ครอบคลุมถึงการบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้า ตัวแทน และพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างครบวงจร ลดปริมาณการใช้กระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม ตามวิถีองค์กรชั้นนำในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ประกอบด้วยบริการต่างๆ ดังนี้

            e-Policy  บริการออกกรมธรรม์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

            Cardless ตรวจสอบความคุ้มครองและค่ารักษาพยาบาลผ่านโรงพยาบาลคู่สัญญา ด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว

           e-Document รับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยทางอีเมล และสามารถดูเอกสารย้อนหลังได้บนเว็บไซต์ AIA iService

            iPoS+ แอปพลิเคชันสำหรับตัวแทนประกันชีวิต รองรับกระบวนการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทุกรูปแบบ

            AIA iService บริการหลังการขายสำหรับลูกค้าในรูปแบบออนไลน์ทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจสอบสถานะเคลม ตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ วันครบกำหนดชำระเบี้ย และดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ

            - iCare เครื่องมือสำหรับตัวแทนในการให้บริการลูกค้า ทั้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ และบริการหลังการขาย

            Tax consent บริการสำหรับลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ให้บริษัทส่ง และเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อการใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้

            Premium certificate บริการสำหรับลูกค้าสามารถดาวน์โหลดหนังสือรับรองการชำระเบี้ยกรมธรรม์ประกันชีวิตและอุบัติเหตุรายบุคคลด้วยตัวเองสานต่อนโยบายภาครัฐ ขับเคลื่อนสู่สังคมไร้เงินสด

            Cashless บริการชำระเงินสำหรับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง คิวอาร์เพย์เมนต์ บัตรเครดิตออนไลน์ และแอปพลิเคชั่นของตัวแทน

            AIAPAY บริการโอนเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ผ่านบัญชีธนาคาร หรือโอนผ่านบัญชี พร้อมเพย์แทนการรับเช็ค

            iMO Smart บริการสอบถามข้อมูลสำหรับตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ผ่านทางแชตบอตบน iMO Smart(LINE Application)

            Online Customer Support บริการสอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า ผ่านช่องทางออนไลน์บน AIA Facebook Official Page และ AIA Thailand LINE Official Account



ติดตามคอลัมน์ Special Interview ได้ในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนพฤษภาคม  2564 ฉบับที่ 469 บนแผงหนังสือชั้นนำทั้่วประเทศและในรูปแบบดิจิทัล : https://goo.gl/U6OnIi