INTERVIEW • SPECIAL INTERVIEW

Special Interview : ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการ และสายงานตัวแทน บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย)

ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล

ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการ

และสายงานตัวแทน

บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย)

 

รุกธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19

จัดทัพตัวแทนขยายฐานลูกค้า

เพิ่มทักษะสู่ที่ปรึกษา

 

ท่ามกลางมรสุมทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า ทั้งจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการปรับลดลงของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน ได้ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจประกันชีวิตที่ทำให้หลายบริษัทต้องชะลอแผนการขยายธุรกิจ แต่สำหรับโตเกียวมารีนประกันชีวิต ช่วงวิกฤติของหลายบริษัทกลับกลายเป็นโอกาสในการพลิกธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด


พลิกวิกฤติเป็นโอกาส

ปีแห่งการขยายธุรกิจ

การเงินธนาคาร ได้สัมภาษณ์พิเศษ ดร.สมโพชน์ เกียรติไกรวัล ประธานที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการและสายงานตัวแทน บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ถึงแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการรับมือกับช่วงเวลาวิกฤติว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อหลายบริษัทจนต้องชะลอการขยายธุรกิจไป แต่สำหรับ บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ในปีนี้ได้กำหนดทิศทางของบริษัทให้เป็น ปีแห่งการขยายงานพร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนตัวแทน 5,000 คน และขยายสาขาเพิ่มเติม 6 สาขา โดยมีการเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 3 สาขาคือ สาขาแม่สอด จ.ตาก สาขาพิษณุโลก และสาขาอุตรดิตถ์

เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ช่องทางตัวแทนมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง แม้กระทั่งในปีนี้พลังตัวแทนฝ่ายขายของโตเกียวมารีนประกันชีวิตก็ยังคงสามารถสร้างผลงานเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการวางรากฐานในการสร้างทีมงานฝ่ายขายมืออาชีพที่แข็งแกร่ง การมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้การขายและการให้บริการลูกค้า

ทั้งนี้ เห็นได้จากในปี 2562 บริษัทมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับผ่านช่องทางการขายผ่านตัวแทนอย่างแข็งแกร่ง โดยสามารถผลิตเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,248 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 3,968 ล้านบาท รวมเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,215 ล้านบาท เติบโต 15 % เมื่อเทียบกับปี 2561

สำหรับผลประกอบการ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ช่องทางตัวแทนสามารถผลิตเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 553 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 1,780 ล้านบาท รวมเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,333 ล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปีก่อนโดยในปี 2563 ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยปีแรก 1,400 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 4,646 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 6,046 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 13%

ดร.สมโพชน์กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ช่องทางการขายผ่านตัวแทนประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 คือจำนวนตัวแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในเดือนสิงหาคม 2563 บริษัทมีตัวแทนถึง 5,500 คน ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ตั้งเป้าไว้เพียง 5,000 คน ซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตผลงานได้อย่างมาก และมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา

การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เกิดจากการที่มีทีมงานขายเข้ามาเสริมทัพอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทำให้โตเกียวมารีนประกันชีวิตสามารถผ่านความยากลำบากในช่วงวิกฤติ และยังมีการเติบโตของช่องทางการขายผ่านตัวแทนอย่างต่อเนื่อง

ดร.สมโพชน์กล่าวว่า ในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 บริษัทมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยผ่านช่องทางตัวแทนที่สูงมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายอย่างมากสำหรับช่องทางตัวแทนในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้การทำงานของตัวแทนมีความยากลำบากและเหนื่อยกว่าที่ผ่านมาเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงแต่ความต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิตกลับมีเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น บริษัทจึงต้องมีการปรับกลยุทธ์การขายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ช่องทางตัวแทนสามารถอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน คือการเพิ่มคน เพื่อเป็นการเพิ่ม Productivity ของยอดขายโดยรวม ซึ่งการที่บริษัทมีการเพิ่มคนมาตั้งแต่ปี 2562 ทำให้มีทัพตัวแทนที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะขยายฐานลูกค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตในส่วนของลูกค้าที่ขาดกำลังซื้อไป ส่งผลให้ยอดขายของช่องทางตัวแทนมีการเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้

นอกจากนี้ การเพิ่มคนในช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม โดยเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือเมื่อสภาวะเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติให้สามารถที่จะดำเนินธุรกิจต่อเนื่องได้อย่างทันที เพราะตัวแทนมีความพร้อมในทุกด้านอยู่แล้ว

การใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มตัวแทน ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตในช่องทางตัวแทนได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งการเพิ่มคนเข้ามาเสริมในจังหวะที่มีความยุ่งยากทางธุรกิจ ถือเป็นจังหวะที่ดี เมื่อธุรกิจเติบโตตัวแทนก็มีโอกาสในการเติบโตไปพร้อมๆ กันด้วย สำหรับโตเกียวมารีนประกันชีวิตปีนี้เป็นปีแห่งการขยายงาน ในยามที่คนอื่นถอย แต่เรารุกธุรกิจไปข้างหน้า

 


บทพิสูจน์อาชีพตัวแทน

สร้างบทพูดเปิดใจลูกค้า

ดร.สมโพชน์ กล่าวว่า ภาพความสำเร็จของตัวแทนของบริษัทได้รับการพิสูจน์มาแล้วจากการผลิตยอดขายสูงสุดของตัวแทนกว่า 200,000-300,000 คนทั่วประเทศ และได้รับการยอมรับจากหลากหลายสถาบันคุณภาพของตัวแทนประกันชีวิตไทย สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทสามารถฉายภาพความสำเร็จของตัวแทนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนได้อย่างภาคภูมิใจ

ทั้งนี้ เพราะการเป็นตัวแทนของโตเกียวมารีนประกันชีวิต ทำให้เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพตัวแทนได้ รวมถึงได้รับผลตอบแทนในการทำงานที่ค่อนข้างจูงใจ โดยจะได้รับทั้งเงินเดือนและผลประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน ส่งผลให้บริษัทสามารถรีครูทตัวแทนใหม่และสร้างตัวแทนที่มีคุณภาพเพื่อมาเสริมทัพได้

สำหรับกลยุทธ์ในการสร้างตัวแทนมืออาชีพของบริษัทนั้น จะเน้นไปที่ภาคปฏิบัติเป็นหลัก เพื่อให้ตัวแทนสามารถขายประกันกับลูกค้าได้จริง โดยบริษัทจะสอนให้ตัวแทนเข้าใจถึงมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับประกันชีวิต ด้วยการสร้างบทพูดที่จะเปิดใจลูกค้าให้ยอมรับเรื่องของการทำประกันชีวิตให้ได้ก่อน จากนั้นจะเป็นการนำเสนอจุดเด่นของแบบประกันที่ลูกค้าให้ความสนใจ

ยุคนี้เป็นโลกของการขายไอเดีย เราพยายามสอนให้ตัวแทนรู้จักคิด เข้าใจถึงกระบวนการขั้นตอนความคิดของคนว่าอะไรคือความจำเป็นของชีวิต ตัวแทนเราต้องเป็นที่ปรึกษา จัดโซลูชั่นทางการเงินให้กับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ภายใต้กำลังซื้อที่จำกัด

ตัวอย่างเช่น การขายแบบประกันบำนาญ (Pension) บริษัทจะอบรมให้ตัวแทนพูดเปิดใจกับลูกค้าว่าการมีอายุยืนเป็นความเสี่ยง คิดหรือไม่ว่าหลังเกษียณจะมีเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเดือนละเท่าไหร่ สนใจจะมีเงินไว้ใช้จ่ายไปจนถึงอายุ 90 ปีหรือไม่

หากลูกค้าตอบรับว่าสนใจก็จะเปิดใจลูกค้าต่อว่า เรื่องของการเกษียณอายุเป็นเรื่องที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ การมีอายุยืนเป็นความเสี่ยง ถ้าหลังเกษียณแล้วมีเงินถือว่าไม่เสี่ยง แต่ถ้าไม่มีเงินถือว่าเสี่ยงมาก จากนั้นก็ถามลูกค้าว่า สามารถรับความเสี่ยงได้หรือไม่ ถ้าวันที่เกษียณไปแล้วไม่ได้มีการสำรองเงินไว้เพียงพอ หากลูกค้าเริ่มสนใจถามกลับมาว่าแล้วจะทำอย่างไร ก็เริ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ รูปแบบการจัดพอร์ตเพื่อวางแผนเกษียณให้กับลูกค้าต่อไปได้ เพื่อปิดการขายต่อไป

ในวันนี้ความฝันในการทำธุรกิจประกันชีวิตของผมเป็นจริงแล้ว เพราะได้ทำให้เรื่องของประกันบำนาญเป็นที่ยอมรับของลูกค้าคนไทย เมื่อครบกำหนดสัญญาตามเงื่อนไขกรมธรรม์ลูกค้าได้รับเงินบำนาญตรงตามที่ได้มีการนำเสนอของตัวแทน ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าชีวิตมีความปลอดภัยแล้วเมื่อทำประกันบำนาญ

 

ลูกค้าเล็งซื้อความคุ้มครอง

ประกันสุขภาพมาแรงลดเสี่ยง

ดร.สมโพชน์กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 กระตุ้นให้ผู้ทำประกันมีความสนใจในเรื่องของการวางแผนทางการเงินกับประกันชีวิต ประกันสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากแสดงให้เห็นแล้วว่าหากไม่มีการวางแผนออมเงินไว้อย่างเพียงพอ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจะทำให้ชีวิตไม่ปลอดภัยและการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งแม้ว่าปีนี้แบบประกันสะสมทรัพย์จะได้รับความสนใจจากลูกค้าน้อยลง เนื่องจากผลตอบแทนที่ลดต่ำลงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

แต่สำหรับแบบประกันของโตเกียวมารีนยังคงได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี ซึ่งสาเหตุมาจากการที่ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของบริษัทมีความชัดเจน รับผลประโยชน์ได้จริงเมื่อครบสัญญาแม้ผลตอบแทนที่ได้รับจะน้อยลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นผลตอบแทนที่น่าพอใจสำหรับลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน

โดยในปีนี้ลูกค้าให้ความสนใจแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตมากขึ้น ควบคู่ไปกับการทำประกันบำนาญและประกันสุขภาพ การที่บริษัทใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มจำนวนตัวแทนให้มากขึ้น ช่วยให้สามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทมีจำนวนรายของลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 50% สามารถผลิตเบี้ยประกันเข้ามาชดเชยในส่วนของกลุ่มลูกค้าที่กำลังซื้อลดลงได้ ทำให้ในช่วงโควิดบริษัทยังคงสามารถสร้างเบี้ยประกันชีวิตเพิ่มขึ้นได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ช่องทางตัวแทนประสบความสำเร็จในการนำเสนอสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับล่างคือ การที่ตัวแทนจะช่วยลูกค้าวางแผนจัดพอร์ตประกันชีวิตให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้าที่มีอยู่จำกัด แต่ได้รับความคุ้มครองชีวิตให้มากที่สุด โดยเน้นประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เพราะปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มมีความเข้าใจแล้วว่าต้องมีการทำประกันชีวิตไว้อย่างน้อย 1 กรมธรรม์ ซึ่งอาจจะเน้นไปที่เรื่องของแบบประกันที่เน้นความคุ้มครองก่อน เนื่องจากเป็นแบบที่จ่ายเบี้ยประกันต่ำ แต่ได้รับความคุ้มครองสูง เป็นต้น

สิ่งที่เราต้องการคือ การสร้างให้ตัวแทนของเราเป็นตัวแทนที่มีทักษะทางการขายแบบมืออาชีพที่เข้าใจเรื่องของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด มากกว่าจะมองว่าจะขายแบบประกันเพื่อให้ได้รับค่าคอมมิสชั่นสูงๆ หากตัวแทนนึกถึงประโยชน์ของลูกค้ามาอันดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่ตามมาคือลูกค้าก็จะเป็นลูกค้าเราตลอดไป

ดร.สมโพชน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงมีการนำเสนอแบบประกันบำนาญและสะสมทรัพย์เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนทางการเงินและวางแผนภาษีให้กับตนเองได้ โดยได้นำเสนอแบบประกันภัยสมาร์ทแพลนนิ่ง 800 ที่ให้ความคุ้มครองสูงถึง 200% ตลอดอายุสัญญา ช่วยสร้างวินัยในการเก็บเงินเพื่อไว้ใช้ในยามเกษียณอายุ เก็บเงินในวัยทำงาน พร้อมรับรายได้ 15% ทุกปีตั้งแต่ปีที่ครบอายุ 61 ปี จนถึงอายุ 89 ปี นอกจากนั้นในปีที่ครบอายุ 90 ปี รับเงินครบสัญญาอีก 365% รวมรับเงินคืนทั้งสิ้น 800% มีให้เลือก 4 ระยะชำระเบี้ย 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือจะเลือกชำระจนครบอายุ 60 ปี ก็ได้

นอกจากนี้ ยังมีแบบประกันสะสมทรัพย์ที่ให้ความคุ้มค่าทางภาษีสูงสุด โตเกียว แทกซ์ เซฟเวอร์ 15/10 นอกจากลดหย่อนภาษีแล้ว ยังได้รับเงินคืนสูง ถึง 20% ทุกปีตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-14 ปีที่ 15 รับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 810% รวมรับเงินคืนทั้งสิ้น 1090% พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 1100%

ขณะเดียวกัน บริษัทได้เพิ่มทางเลือกในการซื้อแบบประกันภัยชั่วระยะเวลา (Term) สำหรับลูกค้าให้ความสำคัญกับความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก โดยให้ความคุ้มครองที่สูงแต่จ่ายเบี้ยประกันที่ต่ำกว่า และเมื่อเวลาผ่านไปที่ลูกค้ามีกำลังซื้อมากขึ้น หรือความต้องการเปลี่ยนไป อยากออมเงินหรือเก็บเงิน หรือมีความต้องการผลประโยชน์ในแบบประกันภัยอื่นๆ มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบตลอดชีพ หรือสะสมทรัพย์ก็อาจจะเลือกปรับเปลี่ยนกรมธรรม์จากแบบประกันภัยชั่วระยะเวลาไปเป็นแบบอื่นๆ ได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้

ในวันนี้ โตเกียวมารีนประกันชีวิต ได้วางรูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของบริษัทไว้อย่างชัดเจนจนลูกค้ามีความเชื่อว่า กรมธรรม์ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับเขาจริงๆ และต้องรักษาไว้ เมื่อวันที่ได้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขกรมธรรม์แล้วลูกค้าได้รับผลประโยชน์ตามที่กรมธรรม์ระบุไว้จริง ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าสามารถฝากชีวิตไว้กับโตเกียวมารีนประกันชีวิตได้จริง

 

ปั้นเครื่องมือขายยุคดิจิทัล

สร้าง Smart Agent ดูแลลูกค้า

ดร.สมโพชน์กล่าวว่า บริษัทได้มีการพัฒนาระบบที่จะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความคล่องตัวให้กับตัวแทนและผู้เอาประกันสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของบริษัทได้ตลอดเวลาผ่าน Mobile Technology เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมดิจิทัล ทั้งในส่วนที่เป็นการนำเสนอสินค้าแบบประกัน การขาย และการบริการของตัวแทนประกันชีวิตในรูปแบบของ Smart Agent เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อและเข้าถึงบริการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงการใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกรมธรรม์ได้ด้วยตนเอง (Self Service) ผ่าน Digital Platform ของบริษัท

        1. ระบบ Fast Track ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตัวแทนที่ใช้ในการเสนอขายแบบประกันให้กับลูกค้าโดยสามารถทำใบเสนอขายส่งอีเมล์ หรือช่องทาง Digital อื่นให้ลูกค้าพร้อมทั้งจัดทำใบคำขอแบบออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถชำระเบี้ยผ่านบัตรเครดิตหรือชำระผ่านบัญชีธนาคาร โดย QR Code รวมถึงการพิจารณารับประกันและแจ้งผลได้ทันทีและผู้เอาประกันสามารถเลือกกรมธรรม์ในรูป e-Policy ได้ด้วยสำหรับการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล

         2. ระบบ Agency Website หรือ ระบบรับชำระเบี้ยงวดต่อออนไลน์ผ่าน Agency Portal ซึ่งเป็นระบบที่ให้ตัวแทนรับชำระเบี้ยจากลูกค้าแบบออนไลน์ผ่าน Credit Card 
หรือโอนผ่านบัญชีธนาคารของลูกค้าด้วย Internet Banking หรือ QR Code ได้ โดยบริษัทจะจัดส่งใบรับเงินชั่วคราวอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าทันทีหลังทำรายการชำระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

          3. ระบบ Touch Point เป็น Mobile Application 
สำหรับลูกค้าโดยสามารถเรียกดูหรือจัดการข้อมูลกรมธรรม์ที่มีกับบริษัทได้ด้วยความสะดวกและรวดเร็ว เช่น ประวัติการชำระเบี้ยประกัน ประวัติสินไหม แสดงรายการกู้เงินกรมธรรม์และยังสามารถชำระเบี้ยประกัน หรือชำระคืนเงินกู้ทางออนไลน์

รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในส่วนของการแสดงบัตรประจำตัวผู้เอาประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ในการใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเครือข่ายรวมทั้งมีการแจ้งเตือน (Notification) สำหรับเบี้ยครบกำหนดชำระให้แก่ลูกค้ารวมถึงข่าวสารต่างๆ และอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพิ่มเติมบริการของระบบให้ผู้เอาประกันสามารถทำรายการเปลี่ยนแปลงกรมธรรม์ได้ด้วยตนเอง

           4. ระบบ Line Notification เป็นระบบแจ้งข้อมูลหรือการติดต่อสื่อสารทั้งกับตัวแทน และลูกค้าผ่าน Line Application เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร เช่น การแจ้งผลงานการแจ้งผลการชำระเบี้ย เป็นตัน

           5. ระบบ Chatbot ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ Chatbot เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อบริการผู้เอาประกันและตัวแทนผ่านระบบพิมพ์ข้อความ (Text Chat) เพิ่มเติมจากช่องทาง Call Center ทั่วไป เป็นการรองรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตในสังคมยุคดิจิทัลที่ต้องการความคล่องตัวไม่มีข้อจำกัดของเวลาและใช้การพูดคุยผ่านการพิมพ์ข้อความมากขึ้น

โดยผู้เอาประกันภัยและตัวแทน สามารถสอบถามข้อมูลกรมธรรม์ ข้อมูลเบี้ยประกัน ข้อมูลผลประโยชน์เงินคืนตามระยะเวลา ข้อมูลทั่วไปอื่นๆ ได้เหมือนการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ Call Center คาดจะสามารถดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้

โตเกียวมารีนพยายามที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ตัวแทนต้องมีทักษะความรู้เครื่องมือที่จะอำนวยความสะดวกเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ ลูกค้าได้รับข้อมูลสินค้าที่ชัดเจนตรงตามเงื่อนไข บริษัทได้รับความเชื่อมั่นจากตัวแทนและลูกค้า ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำธุรกิจถูกต้องแล้ว



ติดตามคอลัมน์ Special Interview ได้ในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนตุลาคม 2563 ฉบับที่ 462 บนแผงหนังสือชั้นนำทั้่วประเทศและในรูปแบบดิจิทัล : https://goo.gl/U6OnIi

หรือช้อปออนไลน์ที่ Shopee : https://shopee.co.th/shop/92758388/search?shopCollection=28050983